ความหมายของคำว่า "เลขานุการ"
"เลขานุการ" สนธิมาจากคำว่า "เลขา+อนุการ" เป็นเลขานุการ ซึ่งความหมายของ "เลขา" แปลว่า ลาย รอยเขียน ตัวอักษร การเขียน งามดังเขียน ส่วนคำว่า "อนุการ" แปลว่า การทำตาม การเอาอย่าง อย่างไรก็ตาม จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ฉบับปี พ.ศ. 2542 ให้ความหมายของคำว่า "เลขานุการ" หมายถึง ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับหนังสือหรืออื่น ๆ ตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง ในภาษาอังกฤษ Secretary ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาลาตินว่า "Secretum" หรือ "Secret" แปลว่าความลับ ดังนั้น Secretary จึงเป็นว่าผู้ความลับ ผู้รักษาความลับ ฉะนั้น การรักษาความลับ จึงเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งของผู้ที่ทำหน้าที่ในตำแหน่งเลขานุการ
นอกจากนี้ ยังแยกศัพท์ของตัวอักษรที่ประกอบเป็นคำว่า Secretary ได้ดังนี้
S = Sense คือ ความสำนึกในหน้าที่ว่าสิ่งใดความทำและไม่ควรทำ
E = Efficiency คือ ความสามารถในการปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพ
C = Courage คือ ความกล้าหาญ กล้ากระทำในสิ่งที่ดีโดยไม่กลัวว่าจะเกิดความผิด
R = Responsibility คือ ความรับผิดชอบในการทำงาน
E = Energy คือ การมีกำลังใจ มีสุขภาพดี
T = Technique คือ การมีเทคนิคในการทำงาน
A = Active คือ ความว่องไวไม่ล่าช้าเพื่องานจะได้สำเร็จตามจุดมุ่งหมาย
R = Rich คือ ความเป็นผู้มีคุณธรรม
Y = Youth คือ ความมีชีวิตชีวา อยู่ในวัยหนุ่มสาว
นอกจากงานในตำแหน่งเลขานุการแล้ว ยังมีลักษณะงานที่มีตำแหน่งหน้าที่ใกล้เคียงกับงานอาชีพเลขานุการที่มักจะได้ยินกันอย่างแพร่หลาย คือ "เลขาธิการ" และ "อักษรเลข" ตำแหน่งเลขาธิการนี้หมายถึง ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง เช่น เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการรัฐสภา เลขาธิการพรรคการเมืองต่าง ๆ เป็นต้น สำหรับตำแหน่งอักษรเลข หมายถึง ตำแหน่งในคณะกรรมการการปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีมาแต่โบราณ ใช้เรียกผู้ทำหน้าที่เลขานุการของผู้ว่าราชการจังหวัด
ประเภทของเลขานุการ เ
ลขานุการสามารถแบ่งตามหลักวิชาการและตามคุณสมบัติได้ดังนี้
1. ตามหลักวิชาการ แบ่งประเภทเลขานุการออกเป็น 4 ประเภท คือ
1.1 เลขานุการประจำตำแหน่ง (Position Secretary) คือ ตำแหน่งประจำที่ได้กำหนดไว้อย่างแน่นอนในหน่วยงานหรือองค์การ โดยกำหนดอัตราเงินเดือนและหน้าที่ไว้แน่นอน ได้แก่ เลขานุการกรม เลขานุการองค์การ และเลขานุการบริษัท
1.2 เลขานุการประจำตัวบุคคล หรือเลขานุการส่วนตัว (Private or Personal Secretary) หมายถึง เลขานุการส่วนตัวที่ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งโดยตรงของผู้บังคับบัญชา เลขานุการจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยทั้งในงานและกิจการส่วนตัว ได้แก่เลขานุการนายกรัฐมนตรี เลขานุการนักธุรกิจ นักแสดง
เป็นต้น
1.3 เลขานุการกิติมศักดิ์ (Honorable Secretary) คือ บุคคลที่ได้รับเชิญให้มาทำหน้าที่เลขานุการในกรณีพิเศษ เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ส่วนมากจะเกี่ยวกับงานการกุศล สมาคม จะไม่มีเงินตอบแทนหรือเงินเดือนประจำ เช่น เลขานุการสภากาชาดไทย
1.4 เลขานุการพิเศษ (Special Secretary) คือ ผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่และได้รับเงินเดือนประจำอยู่แล้ว แต่ได้รับเชิญหรือแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เลขานุการเป็นการชั่วคราวหรือเป็นการเฉพาะในงานใดงานหนึ่ง เมื่อสิ้นสุดลงตำแหน่งเลขานุการก็จะพ้นหน้าที่ตามไปด้วย ได้แก่ เลขานุการในการประชุม การอบรม การสัมมนา
2. ตามคุณสมบัติ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ
2.1 เลขานุการบริหาร (Executive Secretary or Administrative Secretary) หรือเลขานุการองค์การ คือ เลขานุการที่ทำหน้าที่ช่วยงานในด้านการบริหารงานต่าง ๆ ของผู้บริการ เช่น ด้านนโยบาย งานวางแผน การประสานงาน เลขานุการประเภทนี้มักมีผู้ช่วยที่เรียกว่า Correspondence Secretary มาช่วยปฏิบัติงานด้านเอกสารให้
2.2 เลขานุการอาวุโส หรือเลขานุการชั้นสูง (Senior Secretary) หมายถึง เลขานุการที่มีประสบการณ์ในการทำงานมานาน เป็นที่ยอมรับนับถือและได้รับความไว้วางใจจากนายจ้างหรือผู้บังคับบัญชามอบหมายอำนาจหน้าที่และตัดสินใจในการปฏิบัติงานมากกว่าเลขานุการระดับต้น
2.3 เลขานุการระดับต้น (Junior Secertary) หรือเลขานุการระดับสามัญ หมายถึง เลขานุการที่พึ่งสำเร็จการศึกษาใหม่และยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน ลักษณะงานที่ปฏิบัติส่วนใหญ่เป็นงานประจำวัน (Routine) หรือการปฏิบัติงานทั่วไปในสำนักงาน
การเตรียมความพร้อมสู่อาชีพเลขานุการ
อาชีพที่เสมือนเป็นผู้ช่วยจัดการระบบการทำงานของเหล่านักบริหารให้มีประสิทธิภาพ คือ เลขานุการ ด้วยสภาวะการทำงานที่ต้องอาศัยความรอบคอบและความถูกต้องในการตัดสินใการมีเลขานุการที่มีความชำนาญและมีความรอบรู้ในสายงานจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากสำหรับนักบริหารที่ต้องการผ่อนภาระที่มีอยู่จำนวนมากให้เป็นระเบียบเรียบร้อย หน้าที่โดยทั่วไปของเลขานุการ คือ การรับเรื่องต่าง ๆ และตรวจสอบรายละเอียดก่อนที่จะเสนอนายจ้าง ร่างและทำหนังสือโต้ตอบ สรุปบันทึกการนัดหมาย รายงานการประชุม บอกเรื่องราวต่างๆ ด้วยการจด ชวเลขและพิมพ์ดีด ดูแลเก็บเอกสารและช่วยเหลือรายจ้างในงานอื่น ๆ
ตามที่ได้รับมอบหมาย
การเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในตำแหน่งเลขานุการที่ดี
1.ต้องรอบรู้เกี่ยวกับระบบงานในองค์กรเป็นอย่างดี
2.มีความละเอียดรอบคอบความคล่องตัว
3.มีบุคลิกลักษณะดีอดทนมีความรับผิดชอบสามารถเก็บความลับได้เป็นอย่างดี
4.มีความสามารถในการฟังและจดจำรายละเอียดเรื่องราวต่างๆได้แม่นยำ
5.สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์MSOfficeได้ดี
6. ในบางองค์กรที่มีการติดต่อธุรกิจกับต่างประเทศ หากมีทักษะและความสามารถในการ พูด ฟัง อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
ในแง่หนึ่งหากจะกล่าวว่า เลขานุการ เป็น ตำแหน่งมือขวา ที่ต้องคอยช่วยเหลือและรอบรู้การบริหารงานทั้งหมดของผู้เป็นนายเจ้าคงไม่ผิดไปจากความจริงมากนัก เพราะเลขานุการจะต้องทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างของนายจ้าง ความรับผิดชอบให้หน้าที่และการทำงาน
โอกาสและความก้าวหน้า ในตำแหน่งเลขานุการ ความกระตือรือร้นในการปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ รวมไปถึงการติดตามข่าวสารการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวงการธุรกิจ การรู้จักประยุกต์ข่าวสารที่ได้รับมามาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับตนเองในการเลื่อนฐานะไปสู่ตำแหน่งที่สูงกว่าได้ เช่น การเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยฝ่ายบริหาร เลขานุการของผู้จัดการใหญ่ หรือเป็นหัวหน้าแผนกต่าง ๆ เป็นต้น
คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพเลขานุการ
1.ผู้ที่ปฏิบัติงานอาชีพนี้ต้องมีวุฒิการศึกษาอย่างน้อยประกาศนียบัตรวิชาชีพทางเลขานุการ จนถึง ปริญญาตรี หรือปริญญาโทขึ้นอยู่กับลักษณะงานขององค์กร ขนาดขององค์กร และระดับผู้บริหาร
2. มีความรู้งานขององค์กรที่ทำงานอยู่
3. สามารถใช้ชวเลข และใช้ภาษาได้มากกว่าหนึ่งภาษาคือ ภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น หรือ จีน เป็นต้นขึ้นอยู่กับการประกอบธุรกิจขององค์กรนั้น ซึ่งต้องสื่อสารได้ทั้งการเขียน และการพูด
4. เป็นผู้มีบุคลิก และอุปนิสัยที่ดี มีกาลเทศะและมีปฏิภาณไหวพริบ คล่องแคล่วทุกด้าน
5. มีความรับผิดชอบงานดีมาก อดทน ทำงานภายในสภาพกดดันสูงได้ และมีมนุษย์สัมพันธ์ดี
6. ต้องใช้อุปกรณ์สำนักงานที่จำเป็นต่องานและสามารถใช้คอมพิวเตอร์ และโปรแกรมต่างๆ ได้
7. สามารถให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้บังคับบัญชา ตลอดจนการแก้ไขปัญหาอุปสรรคของงานในความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชา
8. มีความสามารถในการเก็บความลับของผู้บังคับบัญชา และองค์กร
9. มีความสามารถในการต้อนรับผู้มาติดต่อ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของผู้บังคับบัญชา และองค์กร
10. มีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล หรือองค์กรที่มาติดต่อ
11. มีความสามารถในการประชาสัมพันธ์ เพื่อประโยชน์ของผู้บังคับบัญชา และองค์กร
12. เป็นผู้อุทิศเวลาให้แก่การทำงาน
คุณสมบัติเฉพาะของผู้ประกอบอาชีพเลขานุการ
1. มีบุคลิกลักษณะและอุปนิสัยที่ดี (Good Character and Personality) หรือบุคลิกภาพและเจตคติที่ดี
2. มีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคในงานอาชีพเลขานุการ (Secretarial Technique)
2.1 การจดชวเลขและถอดข้อความ
2.2 การร่างและโต้ตอบจดหมาย
2.3 การพิสูจน์อักษรและการจัดพิมพ์
2.4 งานพิมพ์ดีดและคอมพิวเตอร์
2.5 การใช้โทรศัพท์
2.6 การแยกประเภทจดหมายและเอกสาร
2.7 การเก็บและรักษาเอกสาร
2.8 การต้อนรับและการนัดหมาย
2.9 มารยาทในการติดต่อและเข้าสังคม
2.10 การเตรียม การจัด การบันทึกและการจัดทำรายงานการประชุม
2.11 การเตรียมการเดินทางและการปฏิบัติงานระหว่างผู้บริหารไม่อยู่
2.12 การประสานงานทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน
2.13 การจัดซื้อและการเตรียมอุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน
2.14 ความรู้ในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในระบบสำนักงานอัตโนมัติ
3. พื้นความรู้ทั่วไป (General Background) คือ ความรู้ทั่วไปในการปฏิบัติงาน เช่น ความรู้เกี่ยวกับภาษี กฎหมาย การธนาคาร เป็นต้น
4. การผ่านการฝึกงาน (Apprentivesship) เลขานุการควรผ่านการฝึกงานก่อนที่จะเข้าปฏิบัติงานหรือรับตำแหน่งเลขานุการเพราะความรู้ทางด้านทฤษฎีอย่างเดียวนั้นยังไม่เพียงพอต่อการทำงานในหน้าที่ นอกจากนี้การฝึกงานยังช่วยให้การปฏิบัติงานมีข้อบกพร่องน้อยลงและช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงานได้มากยิ่งขึ้น
ความสำคัญของมนุษยสัมพันธ์กับงานเลขานุการ
ในการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์ มนุษย์ไม่สามารถอยู่ลำพังได้เพียงคนเดียว ซึ่งการอยู่ร่วมกันของบุคคลในสังคมจึงเป็นไปในลักษณะของการติดต่อ พบปะ สนทนา การถ่ายทอดความรู้ วัฒนธรรมต่าง ๆ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลนั้น สามารถแบ่งได้ 2 ลักษณะ คือ ความสัมพันธ์ที่เป็นธรรมชาติ และความสัมพันธ์ทางวิชาชีพ
มนุษยสัมพันธ์จึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ว่าด้วยการเข้าสังคมและการอยู่ร่วมกันในสังคม อันจะนำไปสู่การร่วมมือร่วมใจในการทำงาน การสร้างมิตรภาพระหว่างบุคคล เป็นแรงจูงใจให้ได้มาซึ่งความรักใคร่นับถือ ความจงรักภักดี รวมถึงการมีสัมพันธภาพที่ดีระหว่างบุคคลรอบข้างด้วย
ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ของเลขานุการแบ่งผู้ที่ต้องติดต่อด้วยเป็น 4 ด้าน คือ
1. ด้านสูงขึ้นไป คือ ผู้บังคับบัญชา
2. ด้านซ้ายมือ คือ เพื่อนร่วมงาน
3. ด้านขวามือ คือ บุคคลภายนอกที่มาติดต่อ
4. ด้านล่าง คือ ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือบุคคลต่ำกว่า
มนุษยสัมพันธ์ที่พึงประสงค์ของเลขานุการ
1. มีความเป็นกันเอง
2. มีบุคลิกลักษณะดี
3. รู้จักควบคุมอารมณ์และใช้อารมณ์ได้อย่างเหมาะสม
4. รู้จักอาวุโส
5. มีกิริยามารยาทสุภาพเรียบร้อย
6. มีความเมตตากรุณา
7. มีไหวพริบปฏิภาณที่ดี
8. มีความขยันขันแข็ง กระตือรือร้น
9. ให้ความร่วมมือดี
10. มีความรับผิดชอบในหน้าที่
11. ไม่ทำตัวเป็นบุคคลที่มีปัญหาจนสัมพันธ์กับใครไม่ได้
12. มีความพยายามที่จะฝึกฝนให้มีคุณสมบัติของมนุษยสัมพันธ์
หลักในการสร้างมนุษยสัมพันธ์กับงานเลขานุการ
โดยคุณเพชรพริ้ง สารสิน ได้กล่าวถึงบุคลิกภาพและการสร้างมนุษยสัมพันธ์ในการทำงานที่น่าสนใจ สรุปได้ดังนี้
- ต้องเข้าใจในพฤติกรรมของมนุษย์
- ต้องรู้ความต้องการของมนุษย์
- ต้องเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
- ต้องรู้สิทธิและหน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดี
- ต้องมีความจริงใจต่อบุคคลอื่น
1. หลักในการฝึกตนเองให้มีมนุษยสัมพันธ์
1.1 สามารถควบคุมอารมณ์ตนเอง
1.2 รู้จักปรับตนเองให้เข้ากับบุคคลทุกระดับ
1.3 รู้จักการประนีประนอม
1.4 รู้จักประมาณตนเอง
1.5 มีความมั่นใจในตนเอง และตัดสินใจด้วยความรอบคอบ
1.6 มีเหตุผล
1.7 ช่างสังเกตและจดจำ
2. หลักในการสร้างมนุษยสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกับผู้บังคับบัญชา
2.1 ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัด
2.2 ศึกษาและสังเกตอุปนิสัยในการทำงานของผู้บังคับบัญชา
2.3 ให้ความเคารพ ยกย่อง สรรเสริญ ผู้บังคับบัญชา
2.4 ปฏิบัติงานในหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบ
2.5 ให้ข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์
2.6 คิดค้นหาวิธีการต่าง ๆ ที่จะทำให้ความต้องการของผู้บังคับบัญชาบรรลุผล
2.7 รู้จักจังหวะ เวลา และโอกาสในการเข้าพบให้เหมาะสมกับกาลเทศะ
2.8 ไม่รบกวนผู้บังคับบัญชาด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเรื่องไม่เป็นเรื่อง
2.9 ไม่แสดงสีหน้าไม่พอใจ หรือโต้แย้งอย่างไร้เหตุผล
2.10 หลีกเลี่ยงการสอพลอ แต่ควรเอาใจใส่ตามความเหมาะสม
3. หลักในการสร้างมนุษยสัมพันธ์ในการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน
3.1 กล่าวคำสวัสดีทักทาย
3.2 มีความจริงใจ
3.3 หลีกเลี่ยงการนินทา
3.4 เสมอต้นเสมอปลาย
3.5 ยกย่องสรรเสริญในบางโอกาส
3.6 ให้ความร่วมมือด้วยดี
3.7 รับฟังความคิดเห็น
3.8 พบปะสังสรรค์กันพอสมควร
3.9 ใจกว้างพอประมาณ
3.10 ไม่ซัดทอดความผิด
3.11 หลีกเลี่ยงเรื่องหยุมหยิม
3.12 อย่าเข้าไปแทรกแซงเรื่องส่วนตัว
4. หลักในการสร้างมนุษยสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชา
4.1 รู้จักควบคุมอารมณ์
4.2 ชี้แจงเหตุผล นโยบาย ตลอดจนแจ้งข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้ลูกน้องทราบอยู่เสมอ
4.3 ให้ความยุติธรรมและเป็นธรรมต่อทุกคน
4.4 รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
4.5 รู้จักยกย่องชมเชย ให้รางวัลเมื่อลูกน้องทำดี
4.6 รู้จักส่งเสริมและให้กำลังใจ
4.7 ให้การฝึกอบรมและพัฒนา
4.8 รู้จักใช้ศิลปะในการวิพากษ์วิจารณ์ การติเพื่อก่อ
4.9 ดูแลเรื่องเงินเดิน สวัสดิการ รักษาผลประโยชน์
4.10 ให้ความเป็นกันเอง ไม่ถือตัวว่าเป็นเจ้านาย
5. หลักในการสร้างมนุษยสัมพันธ์กับบุคคลภายนอก หรือผู้มาติดต่อ หรือลูกค้า
5.1 มีความสุภาพ เรียบร้อย
5.2 มีความนุ่มนวล
5.3 มีความอ่อนน้อม
5.4 มีความเป็นมิตร
5.5 ให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้
5.6 มีความจำดี
5.7 รู้หลักการเจรจาที่ดี
วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552
รายงานการประชุม
ข้าราชการสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี
ครั้งที่ 3 / 2550
ณ ห้องประชุมสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี
วันที่ 26 มีนาคม 2550
ผู้เข้าร่วมประชุม
ตามเอกสารแนบ
เริ่มประชุมเวลา 13.30 น.
นายทศพร ศรีศักดิ์ ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี ประธานที่ประชุม กล่าวเปิดประชุมและดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระดังนี้
วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
1.1 ย้ายข้าราชการ
นายประเสริฐ แสงเพ็ชร ไปปฏิบัติราชการที่ กลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภู
นายพนมกร วาทบัณฑิตกุล มาปฎิบัติราชการที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอหนองวัวซอ
1.2 รายงานผลการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ให้แต่งตั้งคณะทำงาน 2 ท่าน คือ นายณรงค์ชัย ศรีดาวเรือง และนายมานพ กุศลยัง
1.3 การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรองอธิบดีกรมปศุสัตว์
อธิบดีกระจายอำนาจให้รองอธิบดีมีอำนาจแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์
1. นางสาวฉวีวรรณ เลียววิจักขณ์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ มีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุม เร่งรัดและติดตามผลการปฎิบติราชการ โดยให้มีอำนาจในการบังคับบัญชาข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ และการสั่งการอนุญาต การอนุมัติหรือการปฎิบัติราชการที่อธิบดีกรมปศุสัตว์จะพึงปฎิบัติ หรือดำเนินการตามกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องเกี่ยวกับราชการต่างๆ ของสำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ สำนักตรวจสอบคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ สำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์กับเงินทุนหมุนเวียนเพื่อผลิตวัคซีนจำหน่าย สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ
2. นายจีรวัชร์ เข็มสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ มีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุม เร่งรัดและติดตามผลการปฎิบติราชการ โดยให้มีอำนาจในการบังคับบัญชาข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ และการสั่งการอนุญาต การอนุมัติหรือการปฎิบัติราชการที่อธิบดีกรมปศุสัตว์จะพึงปฎิบัติ หรือดำเนินการตามกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องเกี่ยวกับราชการต่างๆ ของศูนย์สารสนเทศ กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กองบำรุงพันธุ์สัตว์ กองอาหารสัตว์ และสำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตสัตว์
3. นายทฤษดี ชาวชวนเจริญ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ มีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุม เร่งรัดและติดตามผลการปฎิบติราชการ โดยให้มีอำนาจในการบังคับบัญชาข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ และการสั่งการอนุญาต การอนุมัติหรือการปฎิบัติราชการที่อธิบดีกรมปศุสัตว์จะพึงปฎิบัติ หรือดำเนินการตามกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องเกี่ยวกับราชการต่างๆ ของสำนักงานเลขานุการกรม กองการเจ้าหน้าที่ กองแผนงาน กองคลัง และสำนักพัฒนาการปศุสัตว์และถ่ายทอดเทคโนโลยี
วาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุม ครั้งที่ 2/2550 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550
รับรองรายงานการประชุม ครั้งที่ 2/2550 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2550 ณ ห้องประชุมสำนักงาน
ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี ที่ประชุมรับรอง แต่ปศุสัตว์จังหวัดเน้นย้ำ ในปี 2551 อธิบดีเน้นคุณภาพของงานมากกว่าปริมาณ และโรคไข้หวัดนกขอให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและตรวจสอบการเคลื่อนย้ายอย่างเข้มงวด
วาระที่ 3 การพิจารณาแผน/ผลการดำเนินการและปัญหาอุปสรรค
3.1 แผน/ผล/ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญ เร่งด่วน ของรัฐบาล/กระทรวง/กรม/จังหวัด
3.1.1 การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ
- สำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 4 ให้ทำแผนประมาณการใช้หญ้าแห้ง ซึ่งคุณณรงค์ชย ศรีดาวเรือง ได้ใช้สถิติจำนวนสัตว์โค-กระบือ และทำประมาณการส่งสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 4 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสามารถปรบเพิ่มเติมได้
- กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศให้จังหวัดอุดรธานีเป็นพื้นที่ที่อาจเกิดภัยพิบัติ ให้แจ้งเตือนเกษตรกร
3.1.2 การเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนก
ในเดือนมกราคม คณะกรรมการตั้งข้อสังเกตว่าปศุสัตว์กับสาธารณสุขยังไม่มีการเชื่อมโยงเครือข่ายร่วมกัน
การตัดชุดสารวัตรกรมปศุสัตว์ให้พิจารณาเรื่องชุดให้จัดหางบประมาณมาช่วยในการตัดชุด
การเคลื่อนย้ายสัตว์ขอให้เฝ้าระวังอย่างเข้มงวดต่อไป และการใช้จ่ายเงินให้ของบประมาณจากท้องถิ่นก่อนแล้วให้ดูความเหมาะสมหากท้องถิ่นมีปัญหาให้หางบประมาณ และวิธีการจากหน่วยงานอื่น อาจจะหาช่องทางเบิกจากงบภัยภิบัติ
3.1.3 การพัฒนาปศุสัตว์ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
- ได้ให้ตัวชี้วัดไปแล้วให้ลองไปสอบถามกับผู้รักษาการดู (คุณมานพ กุศลยัง)
- ให้เสนอเกษตรกรที่ปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงเสนอต่ออำเภอโดยให้ปศุสัตว์อำเภอไปค้นดูหากค้นไม่เจออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้ค้น
- ตัวชี้วัด 9x4 หรือ 6x2 ให้ตรวจสอบว่าให้อำเภอใช้ตัวชี้วัดไหนและให้สำเนาแจกอำเภอด้วย
3.2 แผน/ผล/ติดตามการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์/ยุทธศาสตร์ ของกระทรวง/กรม/จังหวัด
- ฝ่ายบริหารทั่วไป
- ไม่มี
- กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์
- การรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและลดความเสี่ยงจากการถูกสุนัขกัดประจำปี 2550
ปี 2550 ไม่มีเงินค่าตอบแทนสำหรับผู้ฉีดวัคซีน แต่อาจจะของบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้
- ขอความอนุเคราะห์เก็บตัวอย่างเพื่อสำรวจโรค
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะมาเก็บตัวอย่างโรคที่ทำให้เกิดการแท้งในโคนมในเขตภาคตะวันเฉียงเหนือ ในวันที่ 28 มีนาคม 2550 ที่ อำเภอศรีธาตุ
วันที่ 29 มีนาคม 2550 ที่ อำเภอกุดจับ
วันที่ 29-30 มีนาคม 2550 ที่ อำเภอเมือง ขอให้อำเภอช่วยจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้ด้วย
- กลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์
- การเก็บตัวอย่างเนื้อเพื่อส่งตรวจ ให้อำเภอต่อไปนี้ส่งเพิ่มเติมด้วย
อำเภอวังสามหมอ เนื้อสุกร 1 ตัวอย่าง เนื้อโคหรือกระบือ 1 ตัวอย่าง เนื้อไก่ 2 ตัวอย่าง
อำเภอกุมภวาปี ห้วยเกิ้ง เนื้อสุกร 1 ตัวอย่าง เนื้อโค 1 ตัวอย่าง เนื้อไก่ 2 ตัวอย่าง
อำเภอกุมภวาปี พันดอน เนื้อสุกร 2 ตัวอย่าง เนื้อโคหรือกระบือ 1 ตัวอย่าง
อำเภอเพ็ญ เนื้อสุกร 2 ตัวอย่าง เนื้อโคหรือกระบือ 1 ตัวอย่าง เนื้อไก่ 2 ตัวอย่าง
อำเภอบ้านผือ เนื้อสุกร 1 ตัวอย่าง เนื้อโคหรือกระบือ 1 ตัวอย่าง เนื้อไก่ 2 ตัวอย่าง
อำเภอหนองวัวซอ เนื้อไก่ 1 ตัวอย่าง
ให้ส่งตัวอย่างไม่เกินวันที่ 29 มีนาคม 2550
- การขอต่อทะเบียนอาหาร
ร้านอาหารใดที่จะมาต่อทะเบียนอาหารนั้น ขอให้อำเภอแจ้งผู้ประกอบการด้วยว่าจะต้องเตรียมหลักฐานใดมาบ้าง เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมหลักฐานมาให้ครบ
- กิจกรรมมาตรฐานฟาร์มและการตรวจรับรอง
ขณะนี้มีฟาร์มโคเนื้ออยู่ 3 ฟาร์มที่กลุ่มฯ จะพยายามให้เข้าสู่มาตรฐานฟาร์มเพราะยังไม่มีฟาร์มโคเนื้อใดที่เข้ามาตรฐานฟาร์มเลย ซึ่งฟาร์มโคเนื้อที่บ้านช้างน่าจะเป็นฟาร์มที่เข้าสู่มาตรฐานฟาร์มเป็นอันดับแรก
- กลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีการปศุสัตว์
- ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยี 2550
ศูนย์ฯที่กลุ่มได้คัดเลือกมาแล้ว 8 ศูนย์ฯ จะฝึกอบรมในกลางเดือนเมษายน 2550 และขอความร่วมมือจากอำเภอให้กรอกแบบรายงานกรมฯ เพิ่มเติมด้วย
- ศูนย์เรียนรู้การผลิตสัตว์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง 2550
กลุ่มได้เสนอไป 8 อำเภอๆละ 1 ฟาร์ม กรมปศุสัตว์ได้คัดเลือกมา 6 ฟาร์ม ได้แก่ อ. สร้างคอม , อ. กุมภวาปี , อ.เมือง , อ.ประจักษ์ศิลปาคม , อ.วังสามหมอ และอำเภอบ้านดุง
- อาสาพัฒนาปศุสัตว์ (อสป.) 2550
จะอบรมที่จังหวัดมุกดาหาร จำนวน 200 คน ขอให้แต่ละอำเภอส่งรายชื่ออาสาพัฒนาปศุสัตว์ ที่ยังไม่ผ่านการอบรมภายในวันที่ 30 มีนาคม 2550 และขอให้อำเภอคัดเลือกอาสาพัฒนาปศุสัตว์ที่ดีที่สุดมาอำเภอละ 1 คน เพื่อส่ง สสอ.ที่ 4 ภายในวันที่ 30 มีนาคม 2550 เช่นกัน
- โครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ปี 2550 กลุ่มได้ขอหญ้ากินนีสีม่วงจำนวน 2,300 ถุง หญ้ารูซี่ 30 กิโลกรัม
- โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร 2550 เป็นภารกิจของอำเภอในการรับส่งอาหารและให้คำปรึกษา
วาระที่ 4 เรื่องอื่นๆ
- ข้อมูลเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ต้องเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน 2550
- มติคณะรัฐมนตรีกล่าวว่าให้จังหวัดเป็นนิติบุคคล เพราะฉะนั้นจังหวัดสามารถตั้งงบประมาณได้เอง
- กรมบัญชีกลางให้ Print GFMIS รายงานปศุสัตว์ทราบทุกวัน
ปิดประชุมเวลา 16.40 น.
ผู้จดรายงานการประชุม
(นางพัชรา ศีรษะโคตร )
(เจ้าหน้าที่ระบบงานคอมพิวเตอร์)
ผู้ตรวจรายงานการประชุม
(นายณรงค์ชัย ศรีดาวเรือง)
เจ้าหน้าที่บริหารงานปศุสัตว์ 7
ข้าราชการสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี
ครั้งที่ 3 / 2550
ณ ห้องประชุมสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี
วันที่ 26 มีนาคม 2550
ผู้เข้าร่วมประชุม
ตามเอกสารแนบ
เริ่มประชุมเวลา 13.30 น.
นายทศพร ศรีศักดิ์ ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี ประธานที่ประชุม กล่าวเปิดประชุมและดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระดังนี้
วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
1.1 ย้ายข้าราชการ
นายประเสริฐ แสงเพ็ชร ไปปฏิบัติราชการที่ กลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภู
นายพนมกร วาทบัณฑิตกุล มาปฎิบัติราชการที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอหนองวัวซอ
1.2 รายงานผลการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ให้แต่งตั้งคณะทำงาน 2 ท่าน คือ นายณรงค์ชัย ศรีดาวเรือง และนายมานพ กุศลยัง
1.3 การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรองอธิบดีกรมปศุสัตว์
อธิบดีกระจายอำนาจให้รองอธิบดีมีอำนาจแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์
1. นางสาวฉวีวรรณ เลียววิจักขณ์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ มีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุม เร่งรัดและติดตามผลการปฎิบติราชการ โดยให้มีอำนาจในการบังคับบัญชาข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ และการสั่งการอนุญาต การอนุมัติหรือการปฎิบัติราชการที่อธิบดีกรมปศุสัตว์จะพึงปฎิบัติ หรือดำเนินการตามกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องเกี่ยวกับราชการต่างๆ ของสำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ สำนักตรวจสอบคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ สำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์กับเงินทุนหมุนเวียนเพื่อผลิตวัคซีนจำหน่าย สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ
2. นายจีรวัชร์ เข็มสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ มีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุม เร่งรัดและติดตามผลการปฎิบติราชการ โดยให้มีอำนาจในการบังคับบัญชาข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ และการสั่งการอนุญาต การอนุมัติหรือการปฎิบัติราชการที่อธิบดีกรมปศุสัตว์จะพึงปฎิบัติ หรือดำเนินการตามกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องเกี่ยวกับราชการต่างๆ ของศูนย์สารสนเทศ กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กองบำรุงพันธุ์สัตว์ กองอาหารสัตว์ และสำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตสัตว์
3. นายทฤษดี ชาวชวนเจริญ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ มีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุม เร่งรัดและติดตามผลการปฎิบติราชการ โดยให้มีอำนาจในการบังคับบัญชาข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ และการสั่งการอนุญาต การอนุมัติหรือการปฎิบัติราชการที่อธิบดีกรมปศุสัตว์จะพึงปฎิบัติ หรือดำเนินการตามกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องเกี่ยวกับราชการต่างๆ ของสำนักงานเลขานุการกรม กองการเจ้าหน้าที่ กองแผนงาน กองคลัง และสำนักพัฒนาการปศุสัตว์และถ่ายทอดเทคโนโลยี
วาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุม ครั้งที่ 2/2550 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550
รับรองรายงานการประชุม ครั้งที่ 2/2550 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2550 ณ ห้องประชุมสำนักงาน
ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี ที่ประชุมรับรอง แต่ปศุสัตว์จังหวัดเน้นย้ำ ในปี 2551 อธิบดีเน้นคุณภาพของงานมากกว่าปริมาณ และโรคไข้หวัดนกขอให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและตรวจสอบการเคลื่อนย้ายอย่างเข้มงวด
วาระที่ 3 การพิจารณาแผน/ผลการดำเนินการและปัญหาอุปสรรค
3.1 แผน/ผล/ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญ เร่งด่วน ของรัฐบาล/กระทรวง/กรม/จังหวัด
3.1.1 การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ
- สำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 4 ให้ทำแผนประมาณการใช้หญ้าแห้ง ซึ่งคุณณรงค์ชย ศรีดาวเรือง ได้ใช้สถิติจำนวนสัตว์โค-กระบือ และทำประมาณการส่งสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 4 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสามารถปรบเพิ่มเติมได้
- กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศให้จังหวัดอุดรธานีเป็นพื้นที่ที่อาจเกิดภัยพิบัติ ให้แจ้งเตือนเกษตรกร
3.1.2 การเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนก
ในเดือนมกราคม คณะกรรมการตั้งข้อสังเกตว่าปศุสัตว์กับสาธารณสุขยังไม่มีการเชื่อมโยงเครือข่ายร่วมกัน
การตัดชุดสารวัตรกรมปศุสัตว์ให้พิจารณาเรื่องชุดให้จัดหางบประมาณมาช่วยในการตัดชุด
การเคลื่อนย้ายสัตว์ขอให้เฝ้าระวังอย่างเข้มงวดต่อไป และการใช้จ่ายเงินให้ของบประมาณจากท้องถิ่นก่อนแล้วให้ดูความเหมาะสมหากท้องถิ่นมีปัญหาให้หางบประมาณ และวิธีการจากหน่วยงานอื่น อาจจะหาช่องทางเบิกจากงบภัยภิบัติ
3.1.3 การพัฒนาปศุสัตว์ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
- ได้ให้ตัวชี้วัดไปแล้วให้ลองไปสอบถามกับผู้รักษาการดู (คุณมานพ กุศลยัง)
- ให้เสนอเกษตรกรที่ปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงเสนอต่ออำเภอโดยให้ปศุสัตว์อำเภอไปค้นดูหากค้นไม่เจออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้ค้น
- ตัวชี้วัด 9x4 หรือ 6x2 ให้ตรวจสอบว่าให้อำเภอใช้ตัวชี้วัดไหนและให้สำเนาแจกอำเภอด้วย
3.2 แผน/ผล/ติดตามการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์/ยุทธศาสตร์ ของกระทรวง/กรม/จังหวัด
- ฝ่ายบริหารทั่วไป
- ไม่มี
- กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์
- การรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและลดความเสี่ยงจากการถูกสุนัขกัดประจำปี 2550
ปี 2550 ไม่มีเงินค่าตอบแทนสำหรับผู้ฉีดวัคซีน แต่อาจจะของบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้
- ขอความอนุเคราะห์เก็บตัวอย่างเพื่อสำรวจโรค
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะมาเก็บตัวอย่างโรคที่ทำให้เกิดการแท้งในโคนมในเขตภาคตะวันเฉียงเหนือ ในวันที่ 28 มีนาคม 2550 ที่ อำเภอศรีธาตุ
วันที่ 29 มีนาคม 2550 ที่ อำเภอกุดจับ
วันที่ 29-30 มีนาคม 2550 ที่ อำเภอเมือง ขอให้อำเภอช่วยจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้ด้วย
- กลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์
- การเก็บตัวอย่างเนื้อเพื่อส่งตรวจ ให้อำเภอต่อไปนี้ส่งเพิ่มเติมด้วย
อำเภอวังสามหมอ เนื้อสุกร 1 ตัวอย่าง เนื้อโคหรือกระบือ 1 ตัวอย่าง เนื้อไก่ 2 ตัวอย่าง
อำเภอกุมภวาปี ห้วยเกิ้ง เนื้อสุกร 1 ตัวอย่าง เนื้อโค 1 ตัวอย่าง เนื้อไก่ 2 ตัวอย่าง
อำเภอกุมภวาปี พันดอน เนื้อสุกร 2 ตัวอย่าง เนื้อโคหรือกระบือ 1 ตัวอย่าง
อำเภอเพ็ญ เนื้อสุกร 2 ตัวอย่าง เนื้อโคหรือกระบือ 1 ตัวอย่าง เนื้อไก่ 2 ตัวอย่าง
อำเภอบ้านผือ เนื้อสุกร 1 ตัวอย่าง เนื้อโคหรือกระบือ 1 ตัวอย่าง เนื้อไก่ 2 ตัวอย่าง
อำเภอหนองวัวซอ เนื้อไก่ 1 ตัวอย่าง
ให้ส่งตัวอย่างไม่เกินวันที่ 29 มีนาคม 2550
- การขอต่อทะเบียนอาหาร
ร้านอาหารใดที่จะมาต่อทะเบียนอาหารนั้น ขอให้อำเภอแจ้งผู้ประกอบการด้วยว่าจะต้องเตรียมหลักฐานใดมาบ้าง เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมหลักฐานมาให้ครบ
- กิจกรรมมาตรฐานฟาร์มและการตรวจรับรอง
ขณะนี้มีฟาร์มโคเนื้ออยู่ 3 ฟาร์มที่กลุ่มฯ จะพยายามให้เข้าสู่มาตรฐานฟาร์มเพราะยังไม่มีฟาร์มโคเนื้อใดที่เข้ามาตรฐานฟาร์มเลย ซึ่งฟาร์มโคเนื้อที่บ้านช้างน่าจะเป็นฟาร์มที่เข้าสู่มาตรฐานฟาร์มเป็นอันดับแรก
- กลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีการปศุสัตว์
- ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยี 2550
ศูนย์ฯที่กลุ่มได้คัดเลือกมาแล้ว 8 ศูนย์ฯ จะฝึกอบรมในกลางเดือนเมษายน 2550 และขอความร่วมมือจากอำเภอให้กรอกแบบรายงานกรมฯ เพิ่มเติมด้วย
- ศูนย์เรียนรู้การผลิตสัตว์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง 2550
กลุ่มได้เสนอไป 8 อำเภอๆละ 1 ฟาร์ม กรมปศุสัตว์ได้คัดเลือกมา 6 ฟาร์ม ได้แก่ อ. สร้างคอม , อ. กุมภวาปี , อ.เมือง , อ.ประจักษ์ศิลปาคม , อ.วังสามหมอ และอำเภอบ้านดุง
- อาสาพัฒนาปศุสัตว์ (อสป.) 2550
จะอบรมที่จังหวัดมุกดาหาร จำนวน 200 คน ขอให้แต่ละอำเภอส่งรายชื่ออาสาพัฒนาปศุสัตว์ ที่ยังไม่ผ่านการอบรมภายในวันที่ 30 มีนาคม 2550 และขอให้อำเภอคัดเลือกอาสาพัฒนาปศุสัตว์ที่ดีที่สุดมาอำเภอละ 1 คน เพื่อส่ง สสอ.ที่ 4 ภายในวันที่ 30 มีนาคม 2550 เช่นกัน
- โครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ปี 2550 กลุ่มได้ขอหญ้ากินนีสีม่วงจำนวน 2,300 ถุง หญ้ารูซี่ 30 กิโลกรัม
- โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร 2550 เป็นภารกิจของอำเภอในการรับส่งอาหารและให้คำปรึกษา
วาระที่ 4 เรื่องอื่นๆ
- ข้อมูลเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ต้องเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน 2550
- มติคณะรัฐมนตรีกล่าวว่าให้จังหวัดเป็นนิติบุคคล เพราะฉะนั้นจังหวัดสามารถตั้งงบประมาณได้เอง
- กรมบัญชีกลางให้ Print GFMIS รายงานปศุสัตว์ทราบทุกวัน
ปิดประชุมเวลา 16.40 น.
ผู้จดรายงานการประชุม
(นางพัชรา ศีรษะโคตร )
(เจ้าหน้าที่ระบบงานคอมพิวเตอร์)
ผู้ตรวจรายงานการประชุม
(นายณรงค์ชัย ศรีดาวเรือง)
เจ้าหน้าที่บริหารงานปศุสัตว์ 7
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)